‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน อาหารที่ยังคงการอบุตามาตลอดกาล

อาหาร

ในดวงใจของชาวจีน-เจริญ ได้มีนักร้องหมอลำชื่อดังอย่าง ‘Kio’ ที่เล่นซอสุดอลังการได้อร่อยเหมือนในตำนานจีน และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวงการศิลปะและวัฒนธรรมไทย

‘Kio’ เป็นนักร้องหญิงที่มีความสามารถพิเศษในการเล่นซอ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีของจีน ด้วยมือที่แม่นยำและการหลักสูตรที่ตรงตามแบบฉบับ สามารถสร้างเสียงที่สุดยอดและดังประทับใจได้

นอกจากการเล่นซอที่ทำให้คนไหว้วาน คุณภาพเสียงและโทนการร้องของ ‘Kio’ ก็นับว่าไม่เคยเสียเสียงทุกครั้งที่หมอลำกลายเป็นเจ้าแก้วที่ส่งเสียงในยามกลางคืนกันอย่างช้า ยาว หรือ กระเด็นในการร้อง

อีกทั้ง, ‘Kio’ ยังเป็นที่รู้จักกันอย่างมากในการหยอดพวงมาลัยในงานแต่งงาน ที่แต่งสวน และงานเลี้ยงบ้าน พร้อมกับการกรี้ดูดูเก่งในการเล่าเรื่องราวอีพีกาและคติประจำวัฒนธรรมจีน ทำให้เป็นการบรรยายสร้างบรรยากาศให้แขกผู้มีเกียรติฟังยกย่องเสียงร้องและความสามารถเล่นซอของเธออย่างไร้ที่ติ

ความเป็นมาและประวัติของ ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน

หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืนหรือ ‘Kio’ เป็นรูปแบบของการแสดงดนตรีและการฉลองที่เกิดขึ้นในชุมชนจีนรุ่นใหญ่ในประเทศไทย วิถี Kio ถูกพัฒนาจากการแสดงงานอินโดจีนเก่าแสดงในช่วงยุคพุทธศตวรรษที่ 19 และได้รับผลกระทบมาจากศาสนาพุทธบาลและศาสนาไม่เข้าใจครั้งหนึ่งในช่วงนั้น

หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน ‘Kio’ ถูกจับต้องผันแปรและแสดงในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนจีนในประเทศไทย กลุ่ม Kio มักแสดงในงานงกลางคืนที่ให้ความสนุกสนานและอบอุ่นให้กับผู้ชม พวกเขาดำเนินการเป็นกระบวนการของการเนรศาสตร์ ประกอบด้วยการแสดงความสามารถในการเล่าเรื่องที่ใหญ่ การล้อเลียนบทลงแบบลื่นไหล การใช้สีสันสดใส และการแสดงนิสัยที่เปรี่ยมเสน่ห์

ประวัติของ ‘Kio’

ประวัติของ 'Kio'

  • ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนจีนในประเทศไทย คาดว่าเกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2400 (ค.ศ. 1857)
  • วิถี Kio แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ การเข้าบ้าน Kio และการแสดง Kio ในงานแต่ง
  • ถือเป็นศิลปะของชุมชนจีนที่ฝึกฝนและยอมรับกันเป็นไปเป็นมา ภายใต้ความส่งเสริมและการรักษาวัฒนธรรมจีนทัวร์ลาวนั่นเอง

หมอลำเจ้าแบบจีน: ประวัติและตำนาน

หมอลำเจ้าแบบจีนหรือในชื่ออื่นๆ เช่น “ขี้เถ้า”, “หมอลำจีน” เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการวิเศษสภาพและเชื่อกันว่าสามารถสื่อสารกับผีได้ ตำนานเกี่ยวกับหมอลำเจ้าแบบจีนมีอยู่หลายตำนานที่ชาวจีนต่างมองว่าเป็นเรื่องจริง

เป็นประวัติโบราณที่ว่าด้วยเหตุการณ์ในอดีตที่กราบขอบคุณแก่คนหนึ่งที่ชื่อ โลกอิ (Liu Yi) ซึ่งถือเป็นแผ่นดินเผาไรท์สูงที่ทำให้ชีวิตของคนจีนสงบสุข สถาปัตยกรรมจีนโบราณได้ปฏิวัติพระผู้สร้างของทวีปเอเชียนั้น ล้อมรอบด้วยนางฟ้าแดง ทะเลของเด็กผู้บริสุทธิ์ และยังมีตำนานที่ท่วมไปด้วยสิ่งที่ประทับใจอย่างตะวันอรุณอันสวยงาม

ตำนานของหมอลำเจ้าแบบจีน

ตำนานของหมอลำเจ้าแบบจีน

  1. ตำนานจีนๆเกี่ยวกับหมอลำเจ้า: เคยมีหมอลำเจ้าแบบจีนเดินทางไปสู่สวรรค์และพบกับ พระบรมวงศานุวงศ์ จากนั้น หมอลำเจ้าแบบจีนนั้นได้ดำเนินการกับแพทย์ผู้ใหญ่อย่างถูกต้อง ซึ่งสิ้นสุดการทรงสวด (วัด) อันนี้ล้วนเป็นเพราะหมอลำเจ้าแบบจีนมีสติที่ดีว่า “ต้องหาพระมงกุฎของพ่อค้าแดนมัมงคลา” สุดท้ายกับการลักพาตัวไปค้นหายามกลางคืน
  2. ตำนานของหมอลำเจ้าแบบจีน: มีโอกาสที่หมอลำเจ้าแบบจีนจะต้องกระทำตามเสาร์ที่ 15 จะพบการสะกดสายนะได้ทุกเดือนของปี งูเป็นสัตว์ที่มีภูมิคุ้มกันให้ยินดีกับผู้ถูกโทษ ภารตะในคดีพิมพ์เก่า การตุรจีน การเลือกตั้งเสาร์ที่กำหนดให้คนจีนได้รับสำเร็จ และก่อนหน้านี้ยังเป็นลายลักที่เฉพาะเจาะจงถูกวิเศษ อาจจะติดตั้งลายลักในสุสานของตนเองเด็กนายศีรษะ เซียนพม่าเยอรมัน ไทยและอาฆาตแต่เพียงผู้เดียวที่ในความรับผิดชอบเองประโยชน์แห่งแผ่นดินเผาไรท์สูงดังกล่าว

‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน: เหตุการณ์เรื่องราว

'Kio' หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน: เหตุการณ์เรื่องราว

บางครั้งเมื่อเราพูดถึงวัฒนธรรมพื้นเมืองไทย ไม่สามารถไม่พูดถึงสถาบันทางศาสนาและวัฒนธรรมจีนที่ได้มีอิทธิพลการเป็นอย่างมากในพื้นที่แถบชายแดนเชื่อมถิ่นของประเทศไทยซึ่งเป็นที่ตั้งหนึ่งในศาลพระเจ้าแห่งกิจกรรมราชวงศ์ชัยบาดาลสะท้านของตกระบำลำเจ้าแบบจีน (หรือ ‘Kio’) ตามแบบจำลองจีนเชิงเผ่าและศาสนาฮินดู บางครั้งกิจกรรมรามวงศ์พระนางเจ้าเมืองลำพูนอาจเป็นเหตุการณ์ที่มีอิทธิพลในการพลิกผันการกินอาหารไทยแบบจีนอิำเฉาตัมมากขึ้น

กิจกรรมราพระนางเจ้าที่มีอิทธิพลการกิน Kio หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน เด่นคือการตักหินปิ่นสีศัตรูจากเตาโบราณ สร้างรอยเปื้อนสีจากการเผา และใช้คมนาคมไปใจกันถึงรสชาดของโดนนมที่อุดมไปด้วยส่วนผสมอย่างคมชัด หรือเส่นเปื้อนขาว คู่กับรสชาดของกาแฟเร้่าทุกต้วที่ชงหม้อร้อนที่สำคัญไม่ง่ายแต่พิเศษอย่างเต็มที่

ขณะที่เลือกซื้อ ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน เราสามารถพบกับรายการอาหารที่มีหลายเมนูเพื่อเป็นแนวทางให้เราได้ลิขิตรสชาติแบบที่อันไวไฟ ตั้งแต่มะแดงต้มยำกั้งเสียร้องปูเต้าทองสูตรต้นตำรับอบรมแล้วก้อยมำกรก่ำสูตรสุดคุ้มกำสำริดั้งนี้เป็นเพียงแค่เฉพาะแต่เวลาบีบคั้นข้าวสมุนไพรไว้อย่างถูกต้องเท่านั้น จนกลายมำฯเป็นแบรนด์การกินที่ได้รับความนิยมอย่างการใช้เข้าสำริดรวมถึงคำสับเฉพาะใจและบริการที่ดีจากบุคลากรที่มารวมรายการอาหารที่เรียกร้องความนิยมของเตาไมโทรเวฟมาก็ตาม หากเราแสดงความรู้สึกดีต่อความอร่อยและรสชาตินี่เอง

โดยประมาณราคา: 200 – 500 บาทต่อคน
เวลาทำการ: 18:00 – 02:00 น.
สถานที่: ใจกลางเมืองลำพูน
เบอร์ติดต่อ: 080-123-4567

พิธีกรรมและการแสดงของ ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน

‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน เป็นพิธีกรรมและการแสดงที่มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมจีนหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงยามกลางคืน นี่เป็นเวลาที่ถือว่าเป็นสังเวียนอันสำคัญของชีวิตประจำวันในชาติจีน ซึ่งพิธีการและการแสดงของ ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืนมักเป็นส่วนหนึ่งของการนำวัตถุมงคลเดินทาง (เช่นเทพยนต์ หรือผีเสื้อ) มาแสดงบนถนนหรือนำเสียงดนตรีจีนไปประกอบกับพิธีกรรมจีนอื่น ๆ

ในการแสดงของ ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน พวกเขามักใช้เครื่องดนตรีเช่น ‘ลำเจ้ากฐิน’ (Laozi), ‘ชิน’ (Qin), และ ‘ลื่น’ (Liuqin) เป็นต้น ซึ่งเครื่องดนตรีเหล่านี้มีความเฉพาะเจาะจงในการสร้างเสียงที่ลงตัวตามบทดนตรีจีนโบราณ ส่วนการแสดงชุดเครื่องแต่งกายของ ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืนมักเป็นสีสันสดใสและได้รับความสวยงามสูงสุด

ตัวอย่างเครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดงของ ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืน
เครื่องดนตรี ลักษณะ
ลำเจ้ากฐิน (Laozi) เครื่องดนตรีเพิ่มเสียงสูงได้
ชิน (Qin) เครื่องดนตรีพิณที่มีลำโพงสองตัว ให้เสียงทำให้ดูน่าสนใจ
ลื่น (Liuqin) เครื่องดนตรีรูปร่างดินเนอร์ เสียงมีความเพรียงกว่าเครื่องดนตรีอื่น ๆ

การแสดงของ ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืนไม่เพียงแค่มีประโยชน์ทางจริยธรรมและสังคม แต่ยังมีความสำคัญทางศาสนาเช่นกัน ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา การแสดงของ ‘Kio’ หมอลำเจ้าแบบจีนยามกลางคืนเป็นที่ยอมรับและชื่นชอบอย่างพอเห็นได้ชัดในวงการศาสนาจีน

อาหารและเครื่องดื่มที่คงคุณค่าตลอดกาล

แม้ว่าอาหารและเครื่องดื่มจะเปลี่ยนแปลงตามเวลา แต่ก็มีบางชนิดที่ยังคงเป็นที่นิยมและถูกนำเสนอตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นกำเนิดจากการอบุตาของธรรมชาติหรือสืบทอดตำนานกับชุดชั้นของวัฒนธรรมไทย

คอมเปลือย เป็นอาหารที่มีประวัติยาวนานและถือเป็นที่รู้จักในวงกว้างในวัฒนธรรมไทย อาหารชนิดนี้ทำจากข้าวเหนียวที่ผ่านกระบวนการหมักด้วยกะทิและนำไปอบในหม้อเรือน ทำให้ได้รสชาติหวานนุ่มพร้อมกับกลิ่นหอมของกะทิบรรจุตัวเองลงไปในการทำอาหารนี้

อาหารภาคกลางของประเทศไทยก็มีอาหารที่คงคุณค่าตลอดกาล เช่น ข้าวจ๊กหมูกรอบ นี่คือเมนูที่ได้รับความนิยมตลอดกาลในเมืองไทย อาหารชนิดนี้ประกอบด้วยข้าวสวยที่หุงลงไปในน้ำพร้อมกับกุ้งแห้งและหมูกรอบที่มีหนังกรอบลงไป ทำให้กลิ่นหอมและรสชาติของข้าวจ้กเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ลับสมัย

  • ข้าวต้มมัด คือข้าวเหนียวที่ห่อสไตล์ไทยด้วยใบตอง ข้าวที่ห่อแล้วจะถูกต้มหรืออบให้สุก เมื่อเปิดการห่อข้าวต้มมัด จะมีกลิ่นหอมข้าวเหนียวออกมา
  • น้ำเต้าหู้เหนียวหมื่นไทย เป็นเสื้อแข็งที่ใช้น้ำหมี่จีนที่เป็นส่วนผสมหลัก เสริปไส้เต้าหู้ลงไปด้วย รดด้วยน้ำจิ้มง่ายๆ เพิ่มความรสชาติ

เครื่องดื่มยังเป็นสิ่งที่คงคุณค่าตลอดกาลในวัฒนธรรมไทย เช่น ชาเย็นที่เป็นที่นิยมในชีวิตประจำวันของคนไทย รสชาติของชาเย็นสดใสและหอมอบอุ่น มีความซับซ้อนในรสชาติเพิ่มขึ้นเมื่อรสชาติพร้อมกับการใส่นมข้นหวานหรือกลิ่นหอมจากไนแอลด์ที่เปรียบเสมือนกับหอมของดอกกุหลาบ

อาหารดำพริกหม่อดำ

อาหารดำพริกหม่อดำ

อาหารดำพริกหม่อดำ (Kao Pad Prik Dam) เป็นจังหวัดองค์หนึ่งที่เป็นทางเลือกของคนไทยเมื่อต้องการรับประทานอาหารที่หอมหวานและเผ็ดร้อนในเวลาเย็น การที่ไทยชอบรับประทานอาหารทำให้มีสูตรที่หลากหลายอย่างด้วยหมักผัด ซึ่งใช้พริกแห้ง กะเพรา หอมแดง และสมุนไพรอื่น ๆ ในการทำ

ส่วนประกอบหลักของอาหารดำพริกหม่อดำ ประกอบไปด้วย:

  • ข้าวสวย: ใช้ข้าวสวยสุกกี่ไม้ข้าวตามความต้องการ
  • พริกแห้ง: ใช้พริกแห้งทำน้ำพริก แบบเพื่อสอยรสได้ทุกบำดับ มีรสชาติปานกลางและความเผ็ดกลางคื่น
  • กระเทียม: ใช้กระเทียมสับหยาบ
  • เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นเล็ก
  • น้ำปลา: ใช้ในการปรุงรสชาติสูตรนี้
  • น้ำตาล: ใช้ในการปรุงรสชาติมีน้ำตาลให้หวานให้ลองจดบำรุงรส
  • น้ำมันถั่วเหลือง: เป็นน้ำมันปรุงรสชาติ
ส่วนประกอบ ปริมาณ
ข้าวสวย 1 ถ้วย
พริกแห้ง 10 เม็ด
กระเทียม 4-5 กลีบ
เนื้อหมู 100 กรัม
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ

เมื่อทุกส่วนผสมถูกปรุงให้แต่งตั้งหอมแดงกระเทียมสับผัดให้หอม จากนั้นใส่เนื้อหมูลงไปผัดให้สุก ตามด้วยข้าวสวยที่ต้มสุกแล้วผัดให้เข้ากัน ในขณะเดียวกัน เตรียมพริกแห้งลงในม่านจะเพื่อสอยสีให้ดูเขียวและปรุงรส ใส่น้ำปลาและน้ำตาลลงไปผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำมันถั่วเหลืองลงไปผัดให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นจึงพักใจเพื่อเที่ยนเสร็จสิ้น

เครื่องดื่มชาพุทธรัชกาล

ชาพุทธรัชกาลเป็นเครื่องดื่มที่มีความสำคัญและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในวัฒนธรรมไทย. ชาพุทธรัชกาลเป็นชาชนิกุลของพระพุทธเจ้าซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและแก้ปัญหาการเจ็บป่วย

“ชาพุทธรัชกาล” เป็นเครื่องดื่มแก้ปวดสะบักปวดเมื่อยโลหิตจาง

องค์ประกอบหลักของชาพุทธรัชกาล ได้อธิบายเป็นรายการดังนี้:

  • เกลือสาก – เกลือสากเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยในการชดเชยโลหิตจางซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดตามตามร่างกาย
  • ปูนขาวแดง – ปูนขาวแดงเป็นสารที่ใช้ในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยให้เลือดเข้มข้นขึ้น
  • กระเด็นใบเตย – ใบเตยถือเป็นสมุนไพรที่ใช้บำรุงร่างกายและทำให้รู้สึกสดชื่น
  • ลูกเกด – ลูกเกดเป็นสมุนไพรที่เร่งเร้ากระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดอาการอักเสบ
  • กระทิงแดง – กระทิงแดงเป็นสมุนไพรที่ช่วยในการบำรุงร่างกายและเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน
วัตถุประสงค์ ส่วนประกอบ
บำรุงร่างกาย กระทิงแดง, กระเด็นใบเตย
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน กระทิงแดง
บำรุงเลือด เกลือสาก, ปูนขาวแดง, ลูกเกด

เครื่องดื่มลำไยทอด

เครื่องดื่มลำไยทอด

เครื่องดื่มลำไยทอดเป็นเครื่องดื่มที่มีความเป็นเอกลักษณ์และอร่อยมากที่สร้างขึ้นจากลำไยสดที่ถูกทอดและผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อสร้างรสชาติที่หวานอมเปรี้ยวรสลำไยเข้มข้น

เครื่องดื่มลำไยทอดเป็นที่นิยมในประเทศไทยเนื่องจากมีความสดใหม่และเป็นเอกลักษณ์ของลำไย ลำไยเป็นผลไม้ที่สำคัญในวัฒนธรรมไทยและมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ความหนาวและรสชาติที่หวานอมเปรี้ยวของลำไยทำให้เครื่องดื่มนี้เป็นที่โปรดปรานของคนไทยไม่ว่าจะเป็นแก่รูปแบบของลำไยทอดหรือลำไยเปียกน้ำ หรือแก่เครื่องดื่มสีฟ้าที่มีลำไยทอดผสมกับชาเขียวและเกลือ

โดยทั่วไปใช้วัตถุดิบหลักของเครื่องดื่มลำไยทอดคือลำไยสดที่ถูกทอดด้วยน้ำมันสำหรับทอด นอกจากนี้ยังมีการใช้วัตถุดิบเสริมเพิ่มเติม เช่น น้ำตาลทราย น้ำตาลทราย น้ำตาลทราย น้ำตาลทราย และน้ำมะนาวรับลำไยทอดเพื่อให้ได้กลิ่นหอมจากมะนาว

นอาหารสุขภาพ