วิถีแบบการกินของชาวไทยในยุคที่ผ่านมา

สาระน่ารู้

การกินเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในวัฒนธรรมไทย ชาวไทยมีวิถีแบบการกินที่เป็นเอกลักษณ์และหลากหลาย ด้วยสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายและการผสมผสานของวัฒนธรรมต่าง ๆ ชาวไทยมีทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารแนวอารยธรรมในสายเมือง

อาหารท้องถิ่นของชาวไทยมักจะใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่และมีรสชาติเฉพาะตัว เช่น กะหล่ำปลีผัดน้ำมันหอยในภาคกลาง หรือ แกงอ่อมในภาคเหนือ นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น ข้าวขาหมูตุ๋นในภาคใต้และกุ้งแม่น้ำใต้ในภาคตะวันออก ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและรสชาติที่มีความเผ็ดร้อนและเปรี้ยวหวาน

อย่างไรก็ตาม ในยุคที่ผ่านมา ชาวไทยยังมีการรับประทานอาหารแนวอารยธรรมในสายเมืองอย่างเสมอภาค สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและอาหารแบบดั้งเดิม เหตุการณ์เช่นเทศกาลการกินอาหารในสมัยโบราณ หรือหากนำเสนอข้อมูลค้นคว้าอาหารเผ็ดหรือเจ้าน้ำใส่เครื่องเคียงในตลาดริมแม่น้ำ เป็นต้น

ประวัติของวิถีแบบการกิน

วิถีแบบการกินของชาวไทยมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ศักยภาพภูมิปัญญาท้องถิ่นถูกสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ข้ามสิบคริสต์ศตวรรษ ถึงรุ่งเรืองของพระราชวงศ์อยุธยา ซึ่งมีความเป็นมาทางวัฒนธรรมและทางประวัติศาสตร์

ยุคต้นของวิถีแบบการกิน

ในยุคต้นของวิถีแบบการกิน ชาวไทยมักประดิษฐ์อาหารจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งอยู่ใกล้ที่มือและสะดวกต่อการเก็บรักษา เช่น ไข่ไก่ เนื้อสัตว์ป่า เป็นต้น อาหารมักจะระเบิดด้วยส่วนประกอบที่กรอบและฟู และมักจะมีรสชาติเปรี้ยวเป็นลำดับที่สำคัญ

ยุคกลางของวิถีแบบการกิน

ในยุคกลางของวิถีแบบการกิน ชาวไทยติดต่อสังคมต่างๆ ซึ่งส่งผลให้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตเปลี่ยนไป โครงสร้างของอาหารกลายเป็นรูปแบบของอาหารหลายแบบ มีการผสมผสานส่วนประกอบจากภูมิปัญญาและวัฒนธรรมต่างๆ

  • การเชื่อมโยงบทวิถีกับวัฒนธรรมบ้านเมืองเพื่อเติมเต็มส่วนของการกิน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมอาหารให้พร้อมก่อนออกรบ เชฟบ้านที่มีความเชี่ยวชาญในการทำอาหารวื้งอยู่นิยมใช้แหล่งเชื่อมโยงบทวิถีในการกินเป็นแหล่งแม่ข่ายของมรดกของวิถีการกิน
  • การผสมผสานวัฒนธรรมชาติที่หลากหลาย ชาวไทยได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างๆ เช่น อิสลาม อินเดีย จีน ซึ่งเป็นที่มาของการใช้เครื่องปรุงรสต่างๆ ในอาหาร

ยุคปัจจุบันของวิถีแบบการกิน

ยุคปัจจุบันของวิถีแบบการกิน

ในยุคปัจจุบันของวิถีแบบการกิน ชาวไทยยังคงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีในการกินอาหาร โดยมีความหลากหลายทั้งในเรื่องการเตรียมอาหาร ส่วนประกอบของอาหาร และวิถีการรับประทานอาหาร

  • การเตรียมอาหาร ชาวไทยยังคงใช้วัยข่ายวัจนะและวัยข่ายกระดูก เช่น คอหมู ม้าน้ำ และเกรียงวัง
  • ส่วนประกอบของอาหาร อาหารไทยมักมีทั้งสามรสชาติ หรือ วิถีการบริโภคไขมันหน้าดกตามท้องถิ่น
  • การรับประทานอาหาร วิถีการกินของชาวไทยยังคงใช้ชามกับช้อนเสียบสำหรับรับประทานข้าวหนังสือใหญ่หรือ ช้อมีขนมปรุงรสเพื่อให้รสชาติสมบูรณ์แบบ

การกินในสมัยโบราณ

การกินเป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ การกินในสมัยโบราณมีลักษณะแตกต่างจากปัจจุบันในหลายๆ ประการ เช่น วัฒนธรรมการกิน แบบอาหารที่ทาน และการรับประทานอาหารเป็นต้น

วัฒนธรรมการกิน

ในสมัยโบราณ การกินจัดเป็นพิธีกระทำทางศาสนาและมีความสำคัญทางสังคมอย่างมาก การรับประทานอาหารเป็นเวลากลางวันและเวลาเย็น ครอบครัวจะรวมตัวกันท่ามกันรับประทานอาหาร ตามปัจจัยศีลธรรมที่ได้รับการสอนจากประเพณีและครอบครัวเช่นกัน

ในช่วงสมัยโบราณ การกินของคนไทยมีความหลากหลายทั้งเรื่องของเมนูอาหารและวัฒนธรรม. ย่อมมีหลายสงครามและการยอมรับการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมการกินในพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่ภาคเหนือ ใช้การทำเนื้อแห้งและอาหารบกตัวเล็กต่างๆ เรียกว่าปลายปอด พื้นที่ภาคกลางใช้น้ำพริกและแกงชุดต่างๆ เป็นเมนูหลัก และพื้นที่ภาคใต้ใช้เบเกอรี่และข้าวเหนียวในการทำอาหารอุ่น นอกจากนี้ยังมีการใช้งานสมุนไพรและเป็นแหล่งของสายพันธุ์ต่างๆ เช่น สารพันธุ์ของว่านหางจระเข้ คานตำหริ่มและกระดื่นชนิดต่างๆ

อาหารที่ทาน

อาหารที่ทาน

ชาวไทยในสมัยโบราณมักการรับประทานอาหารที่ปรุงรสด้วยสารอาหารต่างๆ อาทิเช่น เกลือ, น้ำตาล, เป็นต้น อาหารที่ทานมักเป็นส่วนผสมของถั่วลิสง, ข้าวโพด, มันฝรั่ง, ผักโขม, ไข่ไก่/ไข่เป็ด และหรือ นมสดและซาร์ดีน และมีการใช้สีสันจากการเอาสารส้มคว่ำลงไปใส่ในอาหารเพื่อให้ฟันได้ผลเอาไว้ ประเภทของอาหารที่ชาวไทยในสมัยโบราณทานเป็นอาหารผักอ่อน, ผลไม้, เนื้อสัตว์ป่า, ปลาแม่น้ำ, และปลาทะเล สูตรอาหารแต่ละสูตรมีรสชาติที่หลากหลายและจะมีการใช้ตระกูลพริกมาเอาไว้อย่างมาก อาหารชนิดอื่นที่ทานอาจจะเป็นประเภทของสุกี้ซอสหรือน้ำซุปที่ต้มโดยใช้มะพร้าวขูดขาว, ต้นหอมใบตัด, และใบมะกรูดเพื่อให้กลิ่นหอม และรสชาติอาหารที่อร่อยเพิ่มมากยิ่งขึ้น

วัตถุดิบอาหารขนาด
เกลือหมูสามชั้นสับ1 ชุด
น้ำตาลข้าวกล้องหอมมะลิ1 ถ้วย
ถั่วลิสงแตงกวาดอง1 กิโลกรัม

การกินในสมัยอยุธยา

ในช่วงสมัยอยุธยา (พ.ศ. 1350-1767) เมืองอยุธยาเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของอาณาจักรไทย สมัยนั้น การกินอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญมากในวิถีชีวิตของคนไทย เนื่องจากให้พลังงานและสารอาหารที่จำเป็นต่อการมีชีวิตรอดตัวอยู่ในระดับสูง

การกินในสมัยอยุธยาเน้นไปที่การรับประทานอาหารจานหลัก ซึ่งเป็นข้าวสวย โดยอาหารเครื่องหมายอยู่รอบข้าว ข้าวจิ้มเปียกและน้ำพริก ผัดพริก และแกงเผือก เป็นต้น มักจะรับประทานอาหารแบบครบวงจร คือ คาวจิ้ม เครื่องแกง เครื่องเมื่อย ทรงเครื่องแกง และหวาน อาทิเช่น ขนมจีนเกี้ยว ขนมเปียกปูน หรือขนมเส้น เป็นต้น

คาวจิ้มเครื่องแกงเครื่องเมื่อย
กุ้งสดแกงส้มหลนอก
หมูสะเต๊ะแกงจืดลูกชิ้น
ไก่ทอดแกงมัสมั่นหมูยอ

นอกจากนี้ การกินในสมัยอยุธยายังมีพิธีกรรมและขนบธรรมเนียมบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาหาร อย่างเช่นการเดินขบวนพาเหรดอาหารไปให้กับพระเจ้าทั้งในวัดและพระบรมมหาราชวัง การทำกล่องข้าวอ่อนเป็นศาสนาพุทธ และการจัดหน้ากับอาหารที่เสริฟ ที่แสดงถึงการเคารพและเครียดำเนินการที่ถูกต้องตามธรรมเนียม

การกินในสมัยรัตนโกสินทร์

การกินในสมัยรัตนโกสินทร์

ในสมัยรัตนโกสินทร์ การกินของชาวไทยมีลักษณะที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ในช่วงเวลานั้น เนื่องจากสมัยรัตนโกสินทร์เป็นสมัยที่ได้รับความผลสำเร็จด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก มีการเจริญเติบโตทั้งทางเมืองและทางชนบท ส่งผลให้วิถีการกินของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมรอบตัว

ในสมัยรัตนโกสินทร์ เมนูอาหารที่ได้รับความนิยมอยู่ในกระแสคืออาหารจานเดียวที่มีอยู่ในแต่ละมีดีให้เห็นถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมอาหารในประเทศไทย เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวผัด ผัดไทย และส้มตำ เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในสมัยรัตนโกสินทร์คือน้ำเปล่าและน้ำส้ม

อาหารคำอธิบาย
ข้าวมันไก่ข้าวหอมมะลิร้อนๆที่กินพร้อมไก่ทอดและน้ำจิ้มไก่
ข้าวผัดข้าวสวยผัดกับเครื่องแกงหรือเนื้อสัตว์
ผัดไทยผัดในลักษณะของเว้นหม่องหยอง ๆ และพิเศษด้วยเครื่องแกงของไทย
ส้มตำผลไม้ปรุงแต่งด้วยน้ำปรุงรสเปรี้ยวหวานเผ็ด

ปัจจุบันสิ่งที่เหลือเขาในชีวิตประจำวันคือขนมไทย ขนมไทยเป็นอาหารหวานที่มีชื่อเสียงจากสมัยรัตนโกสินทร์ เช่น ขนมต้ม ขนมปังซาลาเปา และขนมพุดดิ้ง

  • ขนมต้ม: เป็นขนมหวานของอย่างหนึ่งที่มีรสชาติหวานนุ่ม ๆ และกินง่าย ๆ ส่วนสำคัญของขนมต้มคือข้าวเหนียว
  • ขนมปังซาลาเปา: เป็นขนมปังที่มีทั้งหมดสามชั้นและครบถ้วนด้วยความหวาน ๆ เค็ม ๆ นุ่ม ๆ
  • ขนมพุดดิ้ง: เป็นขนมที่ได้รับความนิยมมากในสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นชุดขนมที่มีสีสันสดใส ด้วยการใช้วัตถุดิบจากพืชและสัตว์ที่หลากหลาย

รสชาติและส่วนผสมทั่วไป

ในยุคที่ผ่านมา การกินของชาวไทยได้รับความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมที่หลากหลายและชนบทของประเทศ รสชาติและส่วนผสมทั่วไปของอาหารไทยอยู่บนผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในต่างประเทศ

รสชาติ

รสชาติอาหารไทยเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีทั่วโลก เนื่องจากการใช้ส่วนผสมที่หลากหลายในอาหารแต่ละเมนู จึงทำให้รสชาติอาหารไทยมีความหลากหลายและโดดเด่น อาหารไทยมีลักษณะใช้เครื่องมือการกินเป็นหลายชิ้น เช่น ช้อน, ส้อม, เครื่องปั่น และมือ จึงช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาในรสชาติอาหารไทย

ส่วนผสมทั่วไป

ส่วนผสมทั่วไป

อาหารไทยมีการผสมผสานส่วนผสมทั่วไปที่สำคัญเป็นหัวใจของรสชาติเอกลักษณ์ ส่วนผสมทั่วไปที่คุ้นเคยผู้คนคือ พริกไทย กระเทียม หอมแดง ต้นหอม ใบมะกรูด พริก ผงกะหรี่ และมะนาว ที่ใช้ในการเติมรสชาติและเพิ่มความอร่อยให้กับอาหาร

  • พริกไทย: ใช้ในการเพิ่มรสเผ็ดสั่งได้ของอาหารไทย
  • กระเทียม: เป็นส่วนช่วยเพิ่มกลิ่นและรสชาติให้กับอาหาร
  • หอมแดง: เพิ่มกลิ่นหอมลงในอาหารไทย
  • ต้นหอม: เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มรสชาติอาหารไทย
  • ใบมะกรูด: ใช้ในอาหารไทยเพื่อเพิ่มความหอม
  • พริก: เก็บรวมกลิ่นและรสชาติอันเผ็ดร้อนให้กับอาหารไทย
  • ผงกะหรี่: เป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารไทยแบบเผ็ด เพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน
  • มะนาว: ใช้ในการเพิ่มรสเปรี้ยวประกายในอาหารไทย

รสชาติของอาหารไทย

อาหารไทยมีรสชาติที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศไทย รสชาติของอาหารไทยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ซึ่งแต่ละรสชาติมีลักษณะและความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน

  1. รสเผ็ด – อาหารไทยมีรสชาติเผ็ดเป็นหนึ่งในรสชาติที่โดดเด่นที่สุด โดยใช้พริกไทยและพริกขี้หนูเป็นส่วนประกอบหลักในการเผ็ดรส พริกไทยสร้างรสชาติที่เผ็ดและร้อนแบบเร้าใจให้กับอาหารไทย อาหารที่มีรสชาติเผ็ดมักมีสูตรที่เจาะจงและอยู่ที่ความเผ็ดที่หลากหลายเช่น ต้มยำกุ้ง แกงเผ็ดหมู และผัดพริกขิง
  2. รสจืด – อาหารไทยมีรสชาติจืดซึ่งมักจะมีลักษณะการปรุงอาหารด้วยเนื้อของจัตุรัส ซึ่งสร้างรสชาติที่เงียบสงบแต่เข้มข้น อาหารที่มีรสชาติจืดมักมีความเป็นธรรมชาติไม่มีสูตรที่ซับซ้อนเช่น ข้าวผัดหมู ผัดไทย และต้มข่าไก่
  3. รสเปรี้ยว – อาหารไทยมีรสชาติเปรี้ยวที่ส่วนใหญ่มาจากการใช้มะนาวหรือมะขามเป็นส่วนประกอบหลัก รสชาติเปรี้ยวต้องการความสดชื่นและมีความเป็นเอกลักษณ์ อาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวมักมีความพิเศษเช่น ต้มยำกุ้ง แกงส้มหมู และยำส้มโอ
  4. รสหวาน – อาหารไทยมีรสชาติหวานที่จัดหาในธรรมชาติไม่มากนัก รสชาติหวานส่วนใหญ่มาจากการใช้น้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ อาหารที่มีรสชาติหวานมักจะเป็นของหวานหรือขนมที่ใช้น้ำตาลเป็นธรรมชาติเช่น ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมจีนใบเตย และข้าวเหนียวสังขยา

อาหารไทยมีรสชาติที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศไทย การผสมผสานรสชาติต่างๆ เป็นเหล่าแสนอร่อยที่มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทย

ส่วนผสมทั่วไปในอาหารไทย

อาหารไทยถือเป็นหนึ่งในอาหารที่มีรสชาติหลากหลายและยอดเยี่ยมที่สุดของโลก เป็นผลมาจากการใช้ส่วนผสมที่หลากหลายในการปรุงอาหาร ต่อไปนี้คือส่วนผสมทั่วไปที่สำคัญในอาหารไทย:

1. พืชผักและสมุนไพร

  • เป็นส่วนสำคัญในอาหารไทย มีการใช้ผักเขียวและสมุนไพรต่าง ๆ เช่น กระเจี๊ยบแดง, ผักกาดขาว, ใบมะกรูด, หอมแดง เป็นต้น ที่ให้สีสันและกลิ่นเปรี้ยวหอมในอาหาร
  • สมุนไพรบางชนิดยังถูกใช้เป็นยาเพื่อดูแลสุขภาพเช่นตับปลาและลูกแก้วในสะเดา

2. ประเทศเติมเต็ม(Taste enhancers)

  • เป็นส่วนสำคัญในการเน้นรสชาติในอาหาร ประกอบด้วยเครื่องปรุง ต่าง ๆ เช่น เกลือ, น้ำตาล, ซีอิ๊ว, ซอสปรุงรส เป็นต้น
  • การใช้ส่วนผสมเหล่านี้ช่วยเพิ่มรสชาติและทำให้อาหารไทยมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

3. ของเคียง (Condiments)

ชื่อรายละเอียด
พริกทั้งพริกหวานและพริกเผาเพิ่มรสชาติเผ็ดของอาหาร
หางหมูใช้ในน้ำซุปหลายชนิดเพื่อเพิ่มความหอมของอาหาร
มะนาวใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องปรุงรสชาติหลากหลายอาหาร

เมื่อสายไทยผสมผสานส่วนผสมที่หลากหลายเหล่านี้เข้าด้วยกัน อาหารไทยจึงมีรสชาติที่เข้มข้นและยิ่งใหญ่ที่รับรู้ได้เป็นเอกลักษณ์

การทำอาหารและแต่งหน้าอาหารไทย

อาหารไทยมีลักษณะการทำอาหารที่ซับซ้อน โดยอาหารไทยมีความหลากหลายทั้งในลักษณะการปรุงและวัตถุดิบที่ใช้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีวัตถุดิบที่ถูกหาได้ง่ายในพื้นที่และถูกปรุงแต่งได้อย่างสวยงาม

การปรุงแต่งอาหารไทยมีความสำคัญในการสร้างรสชาติที่ยอดเยี่ยมและลูกบอลสีสันสดใส การแต่งหน้าอาหารไทยนั้นส่วนใหญ่ใช้สกัดจากพืช ถั่วเต้าเจียว และผักสีสันต่างๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นและสันติส่วน

นอกจากการทำอาหารและแต่งหน้าอาหารไทยที่ซับซ้อนแล้ว การเลือกใช้วัตถุดิบในอาหารไทยยังมีความสำคัญอีกด้วย โดยส่วนมากอาหารไทยใช้งานผักหรือผลไม้สดใหม่เป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากนี้ยังมีการใช้สมุนไพรต่างๆ เช่น กระเพรา ตะไคร้ ขิง ในการเตรียมอาหาร ทำให้อาหารไทยมีกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้น

ลักษณะการทำอาหารและแต่งหน้าอาหารไทยตัวอย่าง
ขนมทองมีลักษณะรูปทรงกลมและใช้แป้งข้าวเป็นเนื้อสัมผัสภายนอก ภายในของขนมจะใช้ไส้สัมผัสของละมุดและส่วนผสมอื่นๆ อย่างช่องแคบและไข่ลูกเข็ม แต่งหน้าด้วยใบยอและขนมข้าวเหนียวสีเขียวอ่อน
ต้มยำกุ้งอาหารเมืองฉะเชิงเทราที่มีลักษณะ เส้นเล็กนุ่ม เส้นเล็กหยิบไม่ใช้ตีบดหยิบ มีกุ้งและหอยลงในถ้วยปรุงรสประยุกต์ซ้ายคนขวา งบน้ำแกงเล็กมาก เส้นแห้งแตกต่างจากสินค้าเส้นขนาดเดียวกันที่มีที่อื่นในร้าน ไส้แห้งนั้นมีคำจำกัดว่า บรรจุต้นหอมบานไม่กี่ผัตตัดแล้วผักสับเล็กๆ นึ่งบรรจุในถ้วยน้ำร้อนแล้วเท่านั้น
ส้มตำส้มตำไทยนอกจะใช้ส้มสายชูใส่กุ้งสดเต้าหู้น้อยซีอิ๊วพริกขี้หนูยาคุณกับน้ำปูน้อยพริกยักษ์กับแป้งปั่นตานแดง)
นอาหารสุขภาพ